ไทย: Open Bible Stories

Updated ? hours ago # views See on DCS

40. พระเยซูถูกตรึงที่กางเขน

Frame 40-01

หลังจากทหารเยาะเย้ย พวกเขานำพระเยซูไปตรึงที่กางเขน พวกเขาบังคับพระเยซูแบกกางเขนไปที่พระองค์จะต้องสิ้นพระชนม์

Frame 40-02

ทหารพาพระเยซูไปยังสถานที่ที่เรียกว่า "หัวกะโหลก" พวกเขาตีตะปูที่อุ้งพระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ติดที่กางเขน แล้วพระเยซูตรัสว่า "พระบิดาโปรดยกโทษให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่" ปีลาตสั่งให้พวกเขาเขียนข้อความว่า "กษัตรย์ของชาวยิว" เขียนที่ป้ายและให้ติดที่กางเขนบนพระเศียรของพระเยซู

Frame 40-03

พวกทหารเอาเสื้อของพระเยซูมาพนันกัน เมื่อพวกเขาทำยังนี้ก็ทำให้คำพยากรณ์สำเร็จที่กล่าวไว้ว่า "พวกเขาแบ่งเสื้อผ้าของเราในกลุ่มของเขา และพนันกันสำหรับเสื้อผ้าของเรา"

Frame 40-04

พระเยซูถูกตรึงกางเขนอยู่ระหว่างโจรสองคน คนหนึ่งเยาะเย้ยพระเยซู แต่อีกคนหนึ่งพูดว่า "เจ้าไม่เกรงกลัวพระเจ้าหรือ เราเป็นคนผิด แต่ท่านผู้นี้เป็นผู้บริสุทธิ์" แล้วเขาก็พูดกับพระเยซูว่า "ขอพระองค์ทรงระลึกถึงข้าพระองค์ด้วยเมื่อพระองค์เข้าอยู่ในอณาจักร์ของพระองค์" พระเยซูตรัสตอบเขาว่า "วันนี้ท่านจะอยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม"

Frame 40-05

ผู้นำชาวยิวและคนอื่นๆ ในฝูงชนเยาะเย้ยพระเยซู พวกเขาพูดว่า ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าจงลงมาจากกางเขนและช่วยตัวเองให้รอดสิ แล้วพวกเราจะเชื่อท่าน

Frame 40-06

แล้วท้องฟ้าทั่วทั้งภูมิภาคก็มืดสนิท แม้จะเป็นช่วงกลางวันแต่ก็ยังมืดตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงบ่ายสามโมง

Frame 40-07

แล้วพระเยซูร้องออกมาว่า พระบิดาสำเร็จแล้ว ข้าพระองค์ขอมอบจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระบิดา จากนั้นพระเยซูก็ก้มพระเศียรลงและมอบจิตวิญญาณของพระองค์ เมื่ิพระสิ้นพระชนม์แล้วแผ่นดินก็ไหวผ้าม่านในพระวิหารก็ขาดออกเป็นสองท่อนจากบนลงล่าง

Frame 40-08

ผ่านความตายของพระองค์ พระเยซูทรงเปิดทางให้มนุษย์มาหาพระเจ้า เมือ่ทหารคนเฝ้าดูพระเยซูได้เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเขาพูดว่า ท่านผู้นี้เป็นผู้บริสุทธิ์และเป็นพระบุตรของพระเจ้าอย่างแน่นอน

Frame 40-09

จากนั้นโยเซฟกับนิโคเดมัสผู้นำชาวยิวสองคนที่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์ ขอปีลาตมอบพระศพของพระเยซูให้แก่พวกเขา แล้วพวกเขาห่อศพของพระเยซูด้วยผ้าป่านและวางไว้ในหลุมฝังศพที่ตัดหินออก แล้วพวกเขากลิ้งหินขนาดใหญ่ที่ด้านหน้าหลุมฝังศพเพื่อป้องกันการเปิดออก

เรื่องราวในพระคัมภีร์ จากพระธรรมมัทธิว 27:27-61; มาระโก 15:16-47; ลูกา 23:26-56; ยอห์น 19:17-42